เคล็ดลับการดูแลประตูหน้าบ้านให้อายุการใช้งานยาวนาน

เคยมั๊ย รู้สึกว่าประตูหน้าบ้านของเรา มันเป็นมากกว่าแค่ทางเข้าออกเฉย ๆ แต่จริง ๆ แล้วประตูหน้าบ้าน เป็นหน้าตาของบ้าน และเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยปกป้องเราจากสิ่งต่าง ๆ ภายนอกด้วย เมื่อเวลาผ่านไป ประตูหน้าบ้านที่คุณรักอาจเริ่มดูเก่าลง สีซีดจาง หรือเปิดปิดยากขึ้น นั่นเป็นสัญญาณว่า ถึงเวลาต้องดูแลกันบ้างแล้วล่ะ วันนี้ เราจะพาคุณไปดูเคล็ดลับกับวิธีดูแลรักษาประตูหน้าบ้านแบบง่ายๆ ที่ใครๆ ก็ทำได้ เพื่อให้ประตูของคุณแข็งแรง ทนทาน และสวยงามเหมือนใหม่ตลอดเวลา พร้อมทั้งยืดอายุการใช้งานให้คุ้มค่าที่สุดกัน
ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าทำไมต้องดูแลประตูหน้าบ้าน
พอเวลานาน ๆ ไป ประตูหน้าบ้านของเรา ต้องเจอกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนไปตลอด ไม่ว่าจะเจอทั้งแดด เจอทั้งฝน ไม้ก็อาจจะบวม สีก็อาจจะซีด หรือเหล็กก็อาจจะขึ้นสนิมได้ ถ้าเราไม่ดูแลมันเลย ประตูเราก็จะพังเร็วขึ้น และสุดท้ายก็ต้องเสียเงินซ่อมหรือซื้อใหม่ ซึ่งมันแพงกว่าการดูแลรักษาเยอะเลย เพราะฉะนั้น การดูแลรักษาประตูหน้าบ้าน จึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว เพราะไม่เพียงแค่ช่วยให้ประตูของเราใช้งานได้นานขึ้น แต่ยังช่วยให้บ้านของเราปลอดภัย และดูดีอยู่เสมออีกด้วย
เคล็ดลับการดูแลประตูหน้าบ้านให้ใช้งานได้นานอีกหลายปี
เมื่อเรารู้ความสำคัญในการดูแลรักษาประตูหน้าบ้านของเราให้ดูใหม่และพร้อมใช้งานตลอดแล้ว เรามาดูเคล็ดลับการดูแลประตูหน้าบ้านให้ใช้งานได้นาน ไม่ต้องซ่อมหรือเปลี่ยนบ่อย ๆ ให้เสียค่าใช้จ่ายแบบไม่จำเป็นกัน
1. เริ่มจากการทำความสะอาดเป็นประจำ
การทำความสะอาดเป็นขั้นตอนแรกและสำคัญที่สุดในการดูแลรักษา ประตูหน้าบ้าน ควรทำความสะอาดอย่างน้อยเดือนละครั้งเพื่อกำจัดฝุ่นและคราบสกปรกที่เกาะติดอยู่
- สำหรับประตูไม้ ให้ใช้ผ้าแห้งหรือแปรงขนนุ่มปัดฝุ่นออกก่อน จากนั้นใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำ บิดหมาด ห้ามใช้วัสดุมีคม หรือมีความแข็ง ขูดที่บานประตู เพราะจะทำให้สีหลุดลอกได้ อย่าปล่อยให้ประตูไม้เปียกเกินไป เพราะอาจทำให้ไม้บวมหรือผุได้
- ประตูเหล็กหรืออะลูมิเนียม ให้เช็ดทำความสะอาดบานประตูด้วยผ้าสะอาดชุบน้ำหมาด ๆ เพื่อขจัดคราบสกปรก ทราย ฝุ่นละออง เช็ดให้แห้งสนิททันทีเพื่อป้องกันสนิม และหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีรุนแรง เช่น น้ำยาล้างห้องน้ำ คือห้ามเด็ดขาดเลย
- และสุดท้ายคือประตู UPVC หรือไฟเบอร์กลาส ให้คุณปัดฝุ่นออกจากพื้นผิวประตูให้หมดจดด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์หรือแปรงขนอ่อนก่อน จากนั้นให้ผสมน้ำสบู่อ่อน ๆ หรือน้ำยาทำความสะอาดชนิดอ่อนโยนกับน้ำ ใช้ผ้าชุบน้ำสบู่บิดหมาด ๆ แล้วเช็ดทำความสะอาดให้ทั่ว สุดท้ายให้รีบใช้ผ้าแห้งเช็ดตามทันทีเพื่อป้องกันการเกิดคราบ
2. อย่าลืมดูแลอุปกรณ์ต่าง ๆ ของประตูอยู่เสมอด้วย
นอกจากบานประตูแล้วอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ลูกบิด กลอนประตู บานพับ และมือจับ ก็เป็นส่วนประกอบที่ทำให้ประตูหน้าบ้านใช้งานได้ดีด้วยนะ หากอุปกรณ์เหล่านี้มีปัญหาอาจทำให้ประตูเปิดปิดยากได้เหมือนกัน อย่างเช่นบานพับ ควรหยอดน้ำมันหล่อลื่นปีละครั้ง หรือเมื่อเริ่มมีเสียงดัง เพื่อให้เปิดปิดได้ง่ายและป้องกันก่อนที่จะเกิดสนิม หรือลูกบิดและกลอนประตู ให้คุณลองตรวจดูว่าน็อตที่ยึดติดแน่นดีมั๊ย ถ้าหลวมก็ปรับให้แน่น หากใช้งานแล้วฝืดหรือมีปัญหา ควรเรียกช่างมาช่วยดูหรือเปลี่ยนใหม่ทันที
3. ทาสีหรือเคลือบผิวประตูใหม่เมื่อเห็นว่าเริ่มจางแล้ว
การทาสีหรือเคลือบผิวใหม่ไม่ใช่แค่ทำให้ ประตูหน้าบ้านของเราดูสวยนะ แต่ยังเป็นเกราะป้องกันชั้นดีจากแสงแดด ฝน และความชื้นด้วย การทาสีใหม่ทุก 3-5 ปีจะช่วยยืดอายุการใช้งานของประตูได้มากเลยล่ะ
- สำหรับประตูไม้ คุณต้องเลือกใช้สีหรือน้ำยาเคลือบไม้ที่มีคุณภาพสูง และต้องขัดสีเก่าออกให้หมดก่อนทาสีใหม่ เพื่อให้สีติดทนและดูเรียบเนียน
- และถ้าเป็นประตูเหล็กควรใช้สีกันสนิมก่อนทาสีจริง เพื่อป้องกันการเกิดสนิมในระยะยาวได้
แถมเทคนิคเสริม ให้คุณลองใช้สีชั้นนอกที่มีช่วยป้องกันรังสียูวีและกันน้ำได้ระดับหนึ่ง จะยืดอายุสีเดิมของประตูได้นานขึ้นเยอะเลยล่ะ
4. ป้องกันประตูจากความชื้นและแสงแดด
ความชื้นและแสงแดดเป็นศัตรูตัวร้ายของประตูหน้าบ้านเลยล่ะ โดยเฉพาะประตูไม้ที่อาจบวมหรือผุได้ง่ายจากการโดนความชื้นบ่อย ๆ และถ้ายิ่งเจอแสงแดดเข้าไปด้วยก็จะยิ่งทำให้สีซีดจางได้ง่ายเลย ดังนั้น แนะนำให้คุณติดตั้งกันสาด และเคลือบผิวประตูกันรังสียูวีด้วย จะช่วยลดการถูกแดดโดยตรงและป้องกันฝนสาด รวมถึงช่วยปกป้องประตูจากความชื้น และแสงแดดได้ดีอีกด้วย
5. ตรวจสอบรอยแตกร้าวหรือว่ามีช่องว่างของประตูหรือไม่
พวกรอยแตกเล็กๆ หรือช่องว่างที่เกิดขึ้น อาจเป็นทางให้ความชื้นและแมลงเข้ามาทำลายประตูเราได้ ดังนั้นควรตรวจดูประตูอย่างละเอียดด้วย และถ้าเจอรอยแตกร้าวเล็ก ๆ ก็ใช้ยาแนวหรือสีโป๊วอุดได้เลย แต่ถ้ารอยใหญ่มาก ๆ ควรปรึกษาช่างผู้เชี่ยวชาญให้มาจัดการทันทีนะ
6. ตรวจสอบและดูแลวงกบประตูและขอบประตู
นอกจากตัวประตูที่เรามองเห็นแล้ว วงกบประตู และ ขอบประตู ก็สำคัญไม่แพ้กันเลย เพราะมันคือส่วนที่ยึดโครงสร้างประตูไว้ทั้งหมด ถ้าวงกบมีปัญหา เช่น บิดเบี้ยวหรือแตกร้าว ประตูจะเปิดปิดยากและล็อกไม่สนิท ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาใหญ่ตามมาได้ วิธีดูแลก็ไม่ยาก ลองทำตามนี้เลย
- ตรวจดูรอยแตกและรอยร้าว ลองมองดูรอบ ๆ วงกบประตูเป็นประจำว่ามีรอยแตกเล็ก ๆ หรือรอยแยกจากผนังหรือเปล่า ถ้าเจอ ให้รีบใช้ ซิลิโคนยาแนว ที่ใช้กับงานภายนอกบ้านอุดทันที เพื่อไม่ให้ความชื้นและแมลงเข้าไปทำลาย
- สังเกตน้ำซึม ลองสังเกตดูว่ามีน้ำซึมตามขอบวงกบมั้ย เพราะน้ำจะทำให้วงกบไม้ผุ หรือวงกบเหล็กขึ้นสนิมได้
- เช็กแถบยางกันลม ถ้าประตูของคุณมีแถบยางหรือโฟมที่ติดรอบวงกบเพื่อกันลมและฝุ่น ลองดูว่ามันยังอยู่ในสภาพดีมั้ย ถ้าเริ่มแข็งหรือหลุดร่อนแล้ว ควรเปลี่ยนใหม่เลย เพื่อให้ประตูยังคงปิดได้สนิทและช่วยกันสิ่งแปลกปลอมจากภายนอกได้อย่างเต็มที่
นอกจากตัวประตูแล้ว บานพับ มือจับ และตัวล็อก ก็เป็นส่วนสำคัญไม่แพ้กัน ถ้าเราใช้ของไม่ดีก็มีสิทธิ์พังก่อนตัวประตูได้ และทุกวันนี้มีนวัตกรรมใหม่เกิดขึ้นเยอะมาก การติด Smart Lock หรือล็อกแบบดิจิทัลก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะใช้งานง่าย แถมยังปลอดภัยกว่าเดิมมาก ไม่ต้องพกกุญแจให้วุ่นวาย ยิ่งถ้ามีคนมา้หาเราที่บ้านบ่อย ๆ หรือต้องให้ช่างเข้ามาซ่อมแซมอะไรในบ้าน ก็แค่บอกรหัสให้เขาไป สะดวก ปลอดภัย และสะอาดกว่าเยอะเลย
สรุป
การดูแลประตูหน้าบ้านอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานและรักษาความสวยงามของบ้านคุณให้คงอยู่ตลอดไป การเริ่มต้นจากขั้นตอนง่าย ๆ อย่างการทำความสะอาด การบำรุงรักษาอุปกรณ์ต่าง ๆ และการมีอุปกรณ์เสริมที่ช่วยป้องกันจากสภาพอากาศที่ไม่สามารถควบคุมได้ ก็จะช่วยให้คุณไม่ต้องเสียเงินจำนวนมากไปกับการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนประตูบ่อย ๆ เลยล่ะ หากคุณต้องการให้ประตูหน้าบ้านอยู่กับเราไปนานๆ อย่าลืมนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปใช้กันนะ


